การปฏิวัติสีในมาเซโดเนีย
ดร.
พอล เครก โรเบิร์ตส์
ในระหว่างยุคสงครามเย็น
ทางวอชิงตันมีความเกี่ยวข้องกับการกระตุ้นให้เกิดการประท้วงต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์บนท้องถนนจนกระทั่งแปรเปลี่ยนไปเป็นการปฏิวัติ เพื่อให้นักการเมืองในปีกที่ทำตัวเป็นลูกสมุนรับใช้เข้าเผด็จอำนาจในรัฐบาลที่จะตั้งขึ้นใหม่
ซึ่งในปัจจุบันนี้เป็นที่ชัดเจนว่าเป็นการกระทำของวอชิงตัน
(ในการปลุกปั่นยุยงให้เกิดการปฏิวัติในประเทศต่างๆ) ซึ่งเราได้มีประ จักษ์พยานด้วยตาของเราเองต่อปฏิบัติการในประเทศยูเครน และขณะนี้กำลังเกิดขึ้นในประเทศมาซีโดเนีย*(ประเทศเล็กๆที่เคยเป็นรัฐหนึ่งหลังจากการล่มสลายของอดีตประเทศยูโกสลาเวีย)
กองทุนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้มาจากเงินบริจาค ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 โดยมีเป้าประสงค์อย่างเป็นทางการเพื่อสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยในต่างประเทศ แต่เป้าหมายที่แท้จริงก็คือสร้างความขัด แย้งในดินแดนยุโรปตะวันออกของรัสเซีย ในทุกวันนี้กองทุนเพื่อประชาธิปไตยได้ใช้เงินภาษีของเรา(ชาวอเมริกัน)ไปใช้ในการโค่นล้มรัฐบาลที่ไม่เป็นพันธมิตรกับวอชิงตัน
กองทุนเพื่อประชาธิปไตยนี้หรือ NGOs เป็นองค์กรที่ไม่ได้ดำเนินการโดยรัฐ ประเทศที่ไม่มีความมั่นคงทางการเมืองเป็นเป้าหมายของวอชิงตัน องค์กร เอ็น. จี. โอ.เหล่านี้ทำงานภายใต้ข้อกำหนดที่ต้องทำคือการให้ความรู้เกี่ยวกับ”ประชาธิปไตย” และ “สิทธิมนุษยชน” โดยให้การศึกษาอบรมแก่ผู้ปฏิบัติงานที่มีอุดมการณ์ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน..นักศึกษา ไปทำการคัดค้าน ต่อต้าน บ่อนเซาะ
รัฐบาลที่ไม่ยอมขึ้นต่อและที่วอชิงตันต้องการขจัด ซึ่งไม่คอยจะเป็นที่พอใจของบรรดานักการเมือง นักศึกษาที่มีอุดมการณ์เหล่านี้มักถูกหลอกลวงได้ง่าย และนักการเมืองท้องถิ่นโดยทั่วไปแล้วมักต้องการอำนาจอย่างเต็มที่ในการรับใช้วอชิงตัน
ตามที่นาง วิคตอเรีย นูแลนด์
ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้กล่าวว่า
วอชิงตันจ่ายเงิน 5
ล้านเหรียญให้แก่นักการเมืองที่มือสะอาดของยูเครนในการสร้าง องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) เพื่อเป็นแนวที่ห้า(Fifth
Columns. หมายถึงกลุ่มคนที่ใช้เป็นเครื่องมือบ่อนทำลายจากภายใน ) เมื่อประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ของยูเครน
ปฏิเสธที่จะเป็นร่วมมือพันธมิตรกับวอชิงตันเพื่อผลประโยชน์ของอเมริกา วอชิงตันก็ใช้แนวที่ 5 ก่อกวน และรัฐบาลของ ยานูโควิช
ก็ถูกโค่นลงด้วยความรุนแรง
ในขณะที่วอชิงตันพร่ำถึงประชาธิปไตย...และโดยความเป็นจริงรัฐบาลของ
ยานูโควิช ก็มาจากการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่ผ่านมาเพียงไม่กี่เดือน แต่ก็ไม่อาจทำให้วอชิงตันหยุดโค่น ยานูโควิช
ลงไปได้
ขณะนี้..ชะตากรรมดังกล่าวดูเหมือนว่ากำลังสะสมปริมาณอยู่ใน
อาร์มีเนีย อาเซอร์ไบจาน คีร์กิสสถาน
และ มาเซโดเนีย
ซึ่งประชาชนอเมริกันส่วนมากไม่รู้ว่าประเทศเหล่านี้อยู่ที่ไหน? อาร์มีเนีย และ
อาร์เซอร์ไบจานนั้นอยู่ทางตะวันตกของทะเลสาบคัสเปียนและก่อนนั้นเคยเป็นแคว้นหนึ่งของ
สหภาพโซ เวียต
คีร์กิสสถานก็เคยเป็นแคว้นหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียตเช่นกัน มีพรมแดนติดกับประ
เทศจีน ส่วน มาเซโดเนีย ถิ่นกำเนิดของพระเจ้า อเล็กซานเดอร์
มหาราช
เป็นดินแดนตอนเหนือของประเทศกรีซ
แต่ในศตวรรษทื่ 20 ส่วนหนึ่งของมาเซโดเนียได้ตกเป็นของ บุลกาเรีย เซอร์เบีย และอัลบาเนีย ตามลำดับ
ก่อนที่จะกลายมาเป็นแคว้นหนึ่งของอดีตประเทศยูโกสลาเวีย หลังจากวอชิงตันได้ทำ ลายประเทศยูโกสลาเวียลงแล้ว
มาเซโดเนียกลายเป็นสาธารณรัฐอิสระประกอบด้วยประชาชนราวสองล้านคน เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลล้อมรอบไปด้วยประเทศต่างๆ ด้านใต้ ติดกับกรีซ
ทางตะวันออกติดบุลกาเรีย
ทางตะวันตกติดกับอัลบาเนีย และด้านเหนือติดกับเแคว้นโคโซโวของเซอร์เบีย
ที่วอชิงตันอุปโลกน์ขึ้น
ทำไมวอชิงตันจึงสนใจในการควบคุมมาเซโดเนีย?
รัฐบาลมาเซโดเนียได้ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมกับนโยบายแซงชั่นรัสเซียของวอชิงตัน และยังสนับสนุนโครงการท่อส่งก๊าซ
รัสเซีย-ตุรกี
เพื่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปโดยผ่านตุรกีไปยังพรมแดนกรีซอีกด้วย
กรีซเองกำลังถูกปล้นโดยสหภาพยุโรป สถาบันการเงินIMF ธนาคารของเยอรมันและฮอลแลนด์ สิ่งที่ตามมาก็คือกรีซได้ถูกผลักเข้าสู่อ้อมกอดของรัสเซีย ด้วยการที่รัสเซียช่วยเหลือกรีซให้หลุดพ้นจากอาการง่อยเปลี้ยทางเศรษฐกิจจากมาตรการตัด-ลด(cuts) ที่สหภาพยุโรปกระทำต่อประชาชนชาวกรีก มาเซโดเนียซึ่งตั้งอยู่หว่างกลางกรีซและเซอร์เบีย ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่เกลียดชังวอชิงตันและสหภาพยุโรป สืบเนื่องมาจากมาจากการถูกแยกสลายเซอร์เบียออกเป็นส่วนๆจากความก้าวร้าวของวอชิงตันและนาโต้
วอชิงตันหวาดผวาต่อการขายพลังงานของรัสเซียไปยังประเทศบริวารของตนในยุโรปโดยผ่านพันธมิตรของรัสเซียในยุโรปซึ่งเกินความสามารถที่วอชิงตันจะควบคุมได้
ถ้าวอชิงตันสามารถช่วงชิง มาเซโดเนียไว้ได้ ก็เท่ากับว่าวอชิงตันสามารถยืนอยู่ระหว่างกลางกรีซและเซอร์เบีย บางทีอาจจะจูงใจกรีซให้หันกลับมาเป็นพันธมิตรและสนับสนุนโครงการท่อส่งแก๊สธรรมชาติจากอาเซอร์ไบจานที่วอชิงตันสนับสนุนอยู่ไปยังประเทศในยุโรป ซึ่งนั่นจะเป็นการลดทอนอิทธิพลของรัสเซียในยุโรปลงไปได้
มาเซโดเนีย มีชาวอัลบาเนียเป็นประชาชนชนส่วนข้างน้อย ประเทศอัลบาเนียก็คือประเทศบริวารของวอชิงตันและเป็นสมาชิกนาโต้ วอชิงตันร่วมมือกับชาวอัลบาเนียเดินขบวนประท้วงบนถนนในเมืองหลวง
สโคเปีย(skopje) รัฐบาลมาเซโดเนียถูกกล่าวหาว่าทุจริตเช่นเดียวกันกับรัฐบาลยูเครน และสหรัฐก็ได้แถลงถึงการเกิดวิกฤตทางการเมืองใน
มาเซโดเนีย ที่วอชิงตันเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้อง หลัง
วอชิงตันจะพูดพร่ำถึงประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนมาตลอด แต่ไม่เคยเคารพในหลักการของทั้งสองประเด็น และมักจะใช้คำเหล่านี้มากล่าวหารัฐบาลประเทศอื่นที่วอชิงตันต้องการจะโค่นล้ม รัฐบาลรัสเซียเข้าใจดีถึงสิ่งเหล่านี้และออกมาตีแผ่ให้โลกรู้ รัฐบาลรัสเซียได้รับรู้บทเรียนและประสบมาแล้วจากการนิ่งเฉยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว...ในขณะที่รัฐบาลยูเครนได้ถูกโค่นลงไป
ทัศนะคติของชาวอเมริกันนั้นตรงกันข้ามกับทัศนะของวอชิงตัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความบ้า
ระห่ำในการไล่ล่าความเป็นพี่เบิ้มนั้นไม่คุ้มกับความเสี่ยงในการเกิดสงครามกับรัสเซียและจีน กลุ่มอนุ รักษ์นิยมใหม่
ซึ่งมีนโยบายต่างประเทศแบบแข็งกร้าวเชื่อว่าความเป็นเจ้าโลกของสหรัฐนั้นมีคุณค่าต่อการเสี่ยง
ถ้าคนอเมริกันจะได้รับความพึงพอใจในการคิดแทนผู้อื่นของพวกอนุรักษ์นิยมใหม่ผู้ร่ำรวย แล้ว
เชื่อหรือว่าโลกจะยอมรับต่อความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น ?
ความก้าวร้าวอย่างเห็นได้ชัดที่วอชิงตันกำลังกระทำต่อรัสเซีย จะเป็นสิ่งเตือนภัยซึ่งไม่เพียงแต่ต่อพล เมืองอเมริกันเท่านั้นยังรวมไปถึงชาวโลกทั้งมวลอีกด้วย สงครามกำลังจะถูกก่อขึ้น..การทำสงคราม กับรัสเซียย่อมหมายถึงทำกับกับจีนด้วย และนั่นไม่ใช่สงครามที่วอชิงตันและประเทศบริวารจะเอา
ชนะได้
แปลโดย
กำจร
No comments:
Post a Comment