Tuesday, May 26, 2015

การปฏิวัติ.....

การปฏิวัติสีในมาเซโดเนีย
ดร. พอล เครก โรเบิร์ตส์
ในระหว่างยุคสงครามเย็น     ทางวอชิงตันมีความเกี่ยวข้องกับการกระตุ้นให้เกิดการประท้วงต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์บนท้องถนนจนกระทั่งแปรเปลี่ยนไปเป็นการปฏิวัติ       เพื่อให้นักการเมืองในปีกที่ทำตัวเป็นลูกสมุนรับใช้เข้าเผด็จอำนาจในรัฐบาลที่จะตั้งขึ้นใหม่       ซึ่งในปัจจุบันนี้เป็นที่ชัดเจนว่าเป็นการกระทำของวอชิงตัน (ในการปลุกปั่นยุยงให้เกิดการปฏิวัติในประเทศต่างๆ)     ซึ่งเราได้มีประ จักษ์พยานด้วยตาของเราเองต่อปฏิบัติการในประเทศยูเครน     และขณะนี้กำลังเกิดขึ้นในประเทศมาซีโดเนีย*(ประเทศเล็กๆที่เคยเป็นรัฐหนึ่งหลังจากการล่มสลายของอดีตประเทศยูโกสลาเวีย)
กองทุนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้มาจากเงินบริจาค   ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 โดยมีเป้าประสงค์อย่างเป็นทางการเพื่อสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยในต่างประเทศ    แต่เป้าหมายที่แท้จริงก็คือสร้างความขัด แย้งในดินแดนยุโรปตะวันออกของรัสเซีย    ในทุกวันนี้กองทุนเพื่อประชาธิปไตยได้ใช้เงินภาษีของเรา(ชาวอเมริกัน)ไปใช้ในการโค่นล้มรัฐบาลที่ไม่เป็นพันธมิตรกับวอชิงตัน
กองทุนเพื่อประชาธิปไตยนี้หรือ NGOs  เป็นองค์กรที่ไม่ได้ดำเนินการโดยรัฐ  ประเทศที่ไม่มีความมั่นคงทางการเมืองเป็นเป้าหมายของวอชิงตัน    องค์กร เอ็น. จี. โอ.เหล่านี้ทำงานภายใต้ข้อกำหนดที่ต้องทำคือการให้ความรู้เกี่ยวกับ”ประชาธิปไตย” และ “สิทธิมนุษยชน”    โดยให้การศึกษาอบรมแก่ผู้ปฏิบัติงานที่มีอุดมการณ์ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน..นักศึกษา   ไปทำการคัดค้าน ต่อต้าน บ่อนเซาะ รัฐบาลที่ไม่ยอมขึ้นต่อและที่วอชิงตันต้องการขจัด      ซึ่งไม่คอยจะเป็นที่พอใจของบรรดานักการเมือง   นักศึกษาที่มีอุดมการณ์เหล่านี้มักถูกหลอกลวงได้ง่าย       และนักการเมืองท้องถิ่นโดยทั่วไปแล้วมักต้องการอำนาจอย่างเต็มที่ในการรับใช้วอชิงตัน
ตามที่นาง วิคตอเรีย นูแลนด์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้กล่าวว่า   วอชิงตันจ่ายเงิน 5 ล้านเหรียญให้แก่นักการเมืองที่มือสะอาดของยูเครนในการสร้าง องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) เพื่อเป็นแนวที่ห้า(Fifth Columns.  หมายถึงกลุ่มคนที่ใช้เป็นเครื่องมือบ่อนทำลายจากภายใน )     เมื่อประธานาธิบดีวิคเตอร์  ยานูโควิช ของยูเครน  ปฏิเสธที่จะเป็นร่วมมือพันธมิตรกับวอชิงตันเพื่อผลประโยชน์ของอเมริกา   วอชิงตันก็ใช้แนวที่ 5 ก่อกวน  และรัฐบาลของ ยานูโควิช ก็ถูกโค่นลงด้วยความรุนแรง     ในขณะที่วอชิงตันพร่ำถึงประชาธิปไตย...และโดยความเป็นจริงรัฐบาลของ ยานูโควิช  ก็มาจากการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตย    ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่ผ่านมาเพียงไม่กี่เดือน     แต่ก็ไม่อาจทำให้วอชิงตันหยุดโค่น ยานูโควิช ลงไปได้
ขณะนี้..ชะตากรรมดังกล่าวดูเหมือนว่ากำลังสะสมปริมาณอยู่ใน อาร์มีเนีย  อาเซอร์ไบจาน  คีร์กิสสถาน  และ  มาเซโดเนีย  ซึ่งประชาชนอเมริกันส่วนมากไม่รู้ว่าประเทศเหล่านี้อยู่ที่ไหน?  อาร์มีเนีย และ อาร์เซอร์ไบจานนั้นอยู่ทางตะวันตกของทะเลสาบคัสเปียนและก่อนนั้นเคยเป็นแคว้นหนึ่งของ สหภาพโซ เวียต    คีร์กิสสถานก็เคยเป็นแคว้นหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียตเช่นกัน  มีพรมแดนติดกับประ เทศจีน    ส่วน มาเซโดเนีย  ถิ่นกำเนิดของพระเจ้า อเล็กซานเดอร์ มหาราช   เป็นดินแดนตอนเหนือของประเทศกรีซ     แต่ในศตวรรษทื่ 20 ส่วนหนึ่งของมาเซโดเนียได้ตกเป็นของ บุลกาเรีย  เซอร์เบีย และอัลบาเนีย ตามลำดับ   ก่อนที่จะกลายมาเป็นแคว้นหนึ่งของอดีตประเทศยูโกสลาเวีย     หลังจากวอชิงตันได้ทำ ลายประเทศยูโกสลาเวียลงแล้ว    มาเซโดเนียกลายเป็นสาธารณรัฐอิสระประกอบด้วยประชาชนราวสองล้านคน    เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลล้อมรอบไปด้วยประเทศต่างๆ ด้านใต้ ติดกับกรีซ  ทางตะวันออกติดบุลกาเรีย   ทางตะวันตกติดกับอัลบาเนีย  และด้านเหนือติดกับเแคว้นโคโซโวของเซอร์เบีย ที่วอชิงตันอุปโลกน์ขึ้น
ทำไมวอชิงตันจึงสนใจในการควบคุมมาเซโดเนีย? 
รัฐบาลมาเซโดเนียได้ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมกับนโยบายแซงชั่นรัสเซียของวอชิงตัน  และยังสนับสนุนโครงการท่อส่งก๊าซ รัสเซีย-ตุรกี   เพื่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปโดยผ่านตุรกีไปยังพรมแดนกรีซอีกด้วย
กรีซเองกำลังถูกปล้นโดยสหภาพยุโรป  สถาบันการเงินIMF   ธนาคารของเยอรมันและฮอลแลนด์  สิ่งที่ตามมาก็คือกรีซได้ถูกผลักเข้าสู่อ้อมกอดของรัสเซีย     ด้วยการที่รัสเซียช่วยเหลือกรีซให้หลุดพ้นจากอาการง่อยเปลี้ยทางเศรษฐกิจจากมาตรการตัด-ลด(cuts)       ที่สหภาพยุโรปกระทำต่อประชาชนชาวกรีก   มาเซโดเนียซึ่งตั้งอยู่หว่างกลางกรีซและเซอร์เบีย     ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่เกลียดชังวอชิงตันและสหภาพยุโรป    สืบเนื่องมาจากมาจากการถูกแยกสลายเซอร์เบียออกเป็นส่วนๆจากความก้าวร้าวของวอชิงตันและนาโต้     วอชิงตันหวาดผวาต่อการขายพลังงานของรัสเซียไปยังประเทศบริวารของตนในยุโรปโดยผ่านพันธมิตรของรัสเซียในยุโรปซึ่งเกินความสามารถที่วอชิงตันจะควบคุมได้
ถ้าวอชิงตันสามารถช่วงชิง มาเซโดเนียไว้ได้    ก็เท่ากับว่าวอชิงตันสามารถยืนอยู่ระหว่างกลางกรีซและเซอร์เบีย         บางทีอาจจะจูงใจกรีซให้หันกลับมาเป็นพันธมิตรและสนับสนุนโครงการท่อส่งแก๊สธรรมชาติจากอาเซอร์ไบจานที่วอชิงตันสนับสนุนอยู่ไปยังประเทศในยุโรป    ซึ่งนั่นจะเป็นการลดทอนอิทธิพลของรัสเซียในยุโรปลงไปได้
มาเซโดเนีย มีชาวอัลบาเนียเป็นประชาชนชนส่วนข้างน้อย        ประเทศอัลบาเนียก็คือประเทศบริวารของวอชิงตันและเป็นสมาชิกนาโต้       วอชิงตันร่วมมือกับชาวอัลบาเนียเดินขบวนประท้วงบนถนนในเมืองหลวง สโคเปีย(skopje)      รัฐบาลมาเซโดเนียถูกกล่าวหาว่าทุจริตเช่นเดียวกันกับรัฐบาลยูเครน     และสหรัฐก็ได้แถลงถึงการเกิดวิกฤตทางการเมืองใน มาเซโดเนีย ที่วอชิงตันเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้อง หลัง
วอชิงตันจะพูดพร่ำถึงประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนมาตลอด  แต่ไม่เคยเคารพในหลักการของทั้งสองประเด็น          และมักจะใช้คำเหล่านี้มากล่าวหารัฐบาลประเทศอื่นที่วอชิงตันต้องการจะโค่นล้ม   รัฐบาลรัสเซียเข้าใจดีถึงสิ่งเหล่านี้และออกมาตีแผ่ให้โลกรู้     รัฐบาลรัสเซียได้รับรู้บทเรียนและประสบมาแล้วจากการนิ่งเฉยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว...ในขณะที่รัฐบาลยูเครนได้ถูกโค่นลงไป
ทัศนะคติของชาวอเมริกันนั้นตรงกันข้ามกับทัศนะของวอชิงตัน    ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความบ้า ระห่ำในการไล่ล่าความเป็นพี่เบิ้มนั้นไม่คุ้มกับความเสี่ยงในการเกิดสงครามกับรัสเซียและจีน   กลุ่มอนุ รักษ์นิยมใหม่ ซึ่งมีนโยบายต่างประเทศแบบแข็งกร้าวเชื่อว่าความเป็นเจ้าโลกของสหรัฐนั้นมีคุณค่าต่อการเสี่ยง     ถ้าคนอเมริกันจะได้รับความพึงพอใจในการคิดแทนผู้อื่นของพวกอนุรักษ์นิยมใหม่ผู้ร่ำรวย  แล้ว     เชื่อหรือว่าโลกจะยอมรับต่อความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น ?
ความก้าวร้าวอย่างเห็นได้ชัดที่วอชิงตันกำลังกระทำต่อรัสเซีย  จะเป็นสิ่งเตือนภัยซึ่งไม่เพียงแต่ต่อพล เมืองอเมริกันเท่านั้นยังรวมไปถึงชาวโลกทั้งมวลอีกด้วย     สงครามกำลังจะถูกก่อขึ้น..การทำสงคราม กับรัสเซียย่อมหมายถึงทำกับกับจีนด้วย       และนั่นไม่ใช่สงครามที่วอชิงตันและประเทศบริวารจะเอา ชนะได้
แปลโดย   กำจร



No comments:

Post a Comment