Wednesday, August 12, 2015

คำปราศรัยครั้งสุดท้ายของ กัดดาฟี

คำปราศรัยครั้งสุดท้ายของ กัดดาฟี

ในพระนามของอัลเลาะห์.. คุณความดี  และเมตตาธรรม....

กว่า 40 ปีแล้ว  หรือนานกว่านั้น ข้าพเจ้าจำไม่ได้   ข้าพเจ้าได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อประชาชน  จะได้มีที่อยู่อาศัย   มีโรงพยาบาล   มีโรงเรียน    และเมื่อพวกเขาหิว  ข้าพเจ้าให้อาหาร ทำให้เบงกาซี ที่เป็นทะเลทรายให้กลายมาเป็นแหล่งเพาะปลูก       ข้าพเจ้าได้ยืนหยัดต่อสู้กับการโจมตีของ โรนัน เรแกน   เมื่อเขาได้ฆ่าลูกสาวบุญธรรมของข้าพเจ้าแล้วยังพยายามฆ่าข้าพเจ้า     และยังได้เข่นฆ่าเด็กๆที่ไร้เดียงสาที่น่าสงสารอีก     เมื่อข้าพเจ้าทำการช่วยเหลือเงินทองให้แก่พี่น้องชายหญิงในอัฟริกาเพื่อสหภาพอัฟริกา

สิ่งที่ข้าพเจ้าได้ทำมาทั้งหมดนั้นเพื่อให้ประชาชนได้ซึมทราบถึงประชาธิปไตยที่แท้จริง   จากการบริหารประเทศโดยสภาประชาชน     แต่นั่นยังไม่เป็นที่พอใจ   มีบางคนบอกข้าพเจ้าว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านขนาด 10 ห้องนอนนั้นไม่เคยมีความพอใจ      พวกเขาเห็นแก่ตัวและต้องการมากกว่านั้น   พวกเขาพูดกับอเมริกาและผู้มาเยือนอื่นๆว่า พวกเขาต้องการ”ประชาธิปไตย” และ “เสรีภาพ”    แต่ไม่เคยเข้าใจเลยว่านั่นเป็นระบบที่ต้องเฉือนเนื้อตัวเองเพื่อป้อนให้แก่สุนัขตัวที่ใหญ่ที่สุด   พวกเขายังลุ่มหลงต่อถ้อยคำเหล่านั้นโดยไม่เคยคำนึงเลยว่า  ในอเมริกาไม่มียาฟรี  ไม่มีโรงพยาบาลฟรี  ไม่มีบ้านฟรี  ไม่มีการศึก ษาและโรงเรียนฟรี   นอกจากประชาชนจะต้องแบมือขอหรือต่อแถวยาวเหยียดเพื่อซุปเพียงชามเดียว

ไม่ว่าสิ่งใดๆที่ข้าพเจ้าได้ทำมา  ไม่เคยเป็นที่พอใจของคนบางคน  แต่สำหรับคนอื่นพวกเขารู้ดีว่าผมเป็นเสมือนลูกชายของ กามาล อับเดล นัสเซอร์   ซึ่งเป็นผู้นำอาหรับและมุสลิมเพียงคนเดียวที่เราเคยมีมาตั้งแต่ ซาเล่ห์ อัล ดีน   เมื่อท่านได้ยึดคลองสุเอซเพื่อประชาชน     ก็เหมือนกับที่ข้าพเจ้าอ้างสิทธิ์ในลิเบียก็เพื่อประชาชน     เป็นการเดินตามรอยเท้าของท่าน   ที่ข้าพเจ้าได้กระทำไปก็เพื่อให้ประชาชนของเราได้หลุดพ้นจากการปกครองแบบอาณานิคมของบรรดาโจรที่ขโมยทรัพยากรของเรา

ขณะนี้ข้าพเจ้าอยู่ภายใต้การโจมตีโดยกำลังทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์     โอบามา ลูกหลานเชื้อสายอัฟริกันต้องการฆ่าข้าพเจ้า   และแย่งยึดเอาเสรีภาพไปจากประเทศของเรา   แย่งชิงที่อยู่อาศัย   บ้านเรือน   การรักษาพยาบาล  การศึกษา  และอาหาร  ที่ให้บริการฟรีแก่ประชาชนของเราไป  และแทนที่ด้วยการปล้นสะดมภ์แบบอเมริกันที่ เรียกว่า “ระบอบทุนนิยม”ซึ่งพวกเราประเทศโลกที่สามซาบซึ้งถึงความหมายของมันดี   ที่มันร่วมมือกันขับเคลื่อนประเทศขับเคลื่อนโลก  ทำให้ประชาชนทั้งโลกต้องทนทุกข์ทรมาน

ดังนั้น..ข้าพเจ้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นใด    จำเป็นต้องยืนหยัด   และถ้าเป็นพระประสงค์ของอัลเลาะห์  ข้าพเจ้าจะยอมตายในวิถีทางของพระองค์    ด้วยการสร้างประเทศชาติของเรามั่งคั่งไปด้วยแผ่นแผ่นดินแห่งเกษตรกรรมมีอาหารอุดมสมบูรณ์ประชาชนมีสุขอนามัยที่ดี และเราจะยังคงให้ความ ช่วยเหลือแก่พี่น้องช่าวอัฟริกาและอาหรับทั้งหลาย        ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาความตาย   แต่ถ้าจะจะต้องตายเพื่อรัก ษาปิตุภูมิและประชาชนที่เป็นเสมือนบุตรหลานให้อยู่รอดปลอดภัย    ข้าพเจ้าก็พร้อมที่จะตาย

ข้าพเจ้าขอประกาศต่อโลกว่า   ข้าพเจ้าจะยืนหยัดต่อสู้กับการโจมตีของ นาโต้ผู้บุกรุก   ยืนหยัด ต่อสู้กับความโหดร้าย   เผชิญหน้ากับการทรยศ   ต่อสู้กับชาติตะวันตกและความทะเยอทะยานของเหล่านักล่าอาณานิคมทั้งหลาย  และข้าพเจ้าจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่และขอเป็นดวงประทีปนำทางให้แก่บรรดาพี่น้องชาว อัฟริกา   ชาวอาหรับที่แท้   พี่น้องมุสลิม   ทั้งหลาย

ในขณะที่คนอื่นๆสร้างคฤหาสน์     ข้าพเจ้าอาศัยในบ้านที่ธรรมดาที่สุดและในกระโจม    ไม่เคยลืมชีวิตในวัยเด็กที่เซียร์เต    ข้าพเจ้าไม่เคยใช้จ่ายทรัพยากรของชาติไปอย่างโง่เขลา    และเช่นเดียวกับ ซาเลห์ อัล ดีน  ผู้นำมุสลิมที่ยิ่งใหญ่ของเรา..ผู้ปลดปล่อยเยรูซาเล็มให้แก่อิสลาม  ข้าพเจ้าทำเพื่อตัวเองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ในโลกตะวันตก บางคนเรียกข้าพเจ้าว่า “คนบ้า” บ้าง  “คนฟั่นเฟือน” บ้าง     พวกเขาต่างรู้ความจริง แต่ยังกล่าวเท็จต่อไป    พวกเขาต่างก็รู้ว่าปิตุภูมิของเรานั้นเป็นอิสระและเสรีไม่ยอมอยู่ในอุ้งมือของนักล่าอาณานิคม    นั่นคือทัศนะของข้าพเจ้า  นั่นคือวิถีทางของข้าพเจ้า    และเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของประชาชนว่า    ข้าพเจ้าจะต่อสู้จนลมหายใจสุดเฮือกสุดท้ายที่จะทำให้เราเป็นอิสระ   ขออัลเลาะห์ที่ทรงมหิทธานุภาพทรงโปรดช่วยเราในการรักษาสัจธรรมและความเป็นเสรีด้วยเทอญ

มูอัมมาร์  กัดดาฟี

  

No comments:

Post a Comment